Eggs Sunny Side Up
ยินดีต้อนรับท่านเข้าสู่เว็บบล็อคบทเรียนเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสำหรับครู

หน่วยที่ 5

ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
1.ความหมายระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
         ในปัจจุบันการใช้คอมพิวเตอร์ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องใช้ชีวิตประจำวันสำนักงาน เริ่มจากการใช้แก้ไขในงานเอกสาร เก็บข้อมูล เป็นเครื่องใช้ทำงานคนเดียว เมื่อสำนักงานหรือองค์กรนั้นมีขนาดใหญ่ขึ้นเริ่มมีการใช้คอมพิวเตอร์หลายรูปแบบ บางครั้งอาจมีการทำงานเหมือนกันหรือแตกต่างกันก็ได้  บางลักษณะงานที่ต้องใช้ข้อมูลร่วมกัน  ถ้าเจ้าหน้าที่แต่ละคนเก็บข้อมูลไว้ในเครื่องของตนเอง ความซ้ำซ้อนของข้อมูลย่อมเกิดขึ้น  ทำให้เสียเวลามากขึ้น บางครั้งข้อมูลไม่ตรงกันจึงทำให้มีการหาวิธีเพื่อทำการเชื่อมโยงต่อระบบคอมพิวเตอร์เหล่านั้นเข้าด้วยกัน
องค์ประกอบของการส่งข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่งจะต้องมีองค์ประกอบที่สำคัญ  3 ส่วนคือ
1. ผู้ส่ง ( Sender ) 
2. ผู้รับ (  Receiver)
3. ตัวกลางในการส่งสัญญาณ ซึ่งทำให้หน้าที่ในการนำข้อมูลจากผู้ส่งไปให้ถึงผู้รับ
2.ประโยชน์ของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
     ในยุคแรกๆ  ของการใช้คอมพิวเตอร์นั้น คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจะแยกการทำงานโดยลำพังเมื่อต้องการนำข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง  มาใช้ทำงานในคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่ง ก็ต้องอาศัยวิธีการที่ยุ่งยาก  เช่น นำเอกสารที่พิมพ์ ออกมาจากเครื่องแรกไปป้อนใหม่ทางแป้นพิมพ์ของเครื่องที่สองหรือบันทึกข้อมูลจากเครื่องแรกลงในแผ่นบันทึกข้อมูล   แล้วจึงค่อยนำไปเปิดในเครื่องที่สองต่อมามีการเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์หลายเครื่องเข้าด้วยกัน
2.1 ระบบเครือข่ายในบริเวณเฉพาะที่  
     การเชื่อมต่อเครือข่ายให้ประโยชน์ในด้านการใช้ข้อมูลร่วมกัน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ข้อมูลในฐานข้อมูลเดียวกันทำให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันมากที่สุด  และยังให้ประโยชน์ในการใช้ทรัพยากรร่วมกัน   เช่น  อุปกรณ์ประเภทเครื่องพิมพ์   เครื่องกราดตรวจ  นอกจากนี้ยังทำงานเอกภาพและประสิทธิภาพมากขึ้น  
2.2 ระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต 
      เนื่องจากระบบนี้เป็นระบบใหญ่ที่มีการเชื่อมต่อโยงกันทั่วโลกผลประโยชน์และผลกระทบจึงมีกว้างไกลมาก สิ่งที่เรารู้จักและนำมาใช้ประโยชน์ทุกวันนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น  ยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องซึ่งจะนำซึ่งสิ่งใหม่ๆ อีกมากมาย ตัวอย่างประโยชน์ที่เรานำมาใช้ในปัจจุบัน  ได้แก่ การสื่อสารด้วยไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ( E-mail ) การสืบค้นข้อมูลจากเว็บไซต์  การศึกษาแบบ  ( E- learning )  การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ( E-commerce ) และการธนาคารอิเล็กทรอนิกส์ (E-banking)                       
2.3 ระบบเครือข่ายร่วมปฏิบัติ 
      เป็นระบบเครือข่ายที่ทำให้เกิดการรวมพลังของคอมพิวเตอร์เครือข่ายมาทำงานร่วมกัน  ขณะที่มีการนำระบบนี้มาใช้ในงานวิจัยเพื่อถอดรหัสพันธุกรรมมนุษย์คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่กระจ่ายอยู่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลกสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการวิจัยได้ และแต่ละเครื่องจะได้รับส่วนแบบของงานคำนวณมาทำ สมรรมนะของคอมพิวเตอร์ทั้งหมดในเครือข่ายจึงยิ่งกว่าซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ใดๆ ในโลก ทำให้งานวิจัยสามารถสำเร็จลุล่วงได้ในเพียงไม่กี่ปี แทนที่จะต้องใช้เวลานานนับ สิบๆปี
3.ประเภทของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
     สื่อสารของคอมพิวเตอร์อาจมีขนาดใหญ่หรือเครือข่ายขนาดเล็กอาจเป็นส่วนบุคคลหรือสาธารณะและอาจจะเป็นไร้สายหรือใช้สายหรือใช้ทั้งสองแบบร่วมกัน  ในทำนองเดียวกันเครือข่ายขนาดเล็กอาจจะมีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายขนาดใหญ่ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่นิยมใช้งานในปัจจุบันสามารถแยกได้  3 ประเภทดังนี้
   1.เครือข่ายแลนหรือเครือข่ายบริเวณเฉพาะที่ (LAN หรือLocal Area Network) เป็นเครือข่ายที่นิยมใช้ภายในสำนักงานอาคารเดียวกัน และองค์กรที่อยู่ในบริเวณเดียวกันหรือใกล้กัน เป็นเครือข่ายระยะใกล้การเชื่อมต่อสามารถใช้สายเคเบิล สายโคแอกซ์ หรือสายใยแก้ว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานขององค์กรและสามารถใช้อุปกรณ์ต่างๆ ร่วมกันได้  ตัวอย่างของเครือข่ายนี้ได้แก่ เครือข่ายคอมพิวเตอร์มหาวิทยาลัย โรงเรียน  และบริษัทหรือห้างร้านต่างๆ
   2. เครือข่ายแมนหรือเครือข่ายบริเวณนครหลวง (MAN หรือ ( Metropolitan  Area Network ) เป็นเครือข่ายที่มีการเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้ที่อยู่ในเขตเมืองเดียวกัน  เป็นเครือข่ายขนาดกลางที่สร้างขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนของเมืองนั้นหรือเขตการปกครองนั้น เช่น เครือข่ายของรัฐต่างๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกา
3. เครือข่ายแวนหรือเครือข่ายบริเวณกว้าง (WAN หรือ Wide Area network)   เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงระบบเข้าด้วยกันในระยะไกล  ครอบคลุมพื้นที่ทั้งประเทศ ระหว่างประเทศ หรือทั่วโลก โดยอาศัยอุปกรณ์ดาวเทียม  สายเส้นใยแก้วนำแสง หรือคลื่นไมโครเวฟ เป็นตัวกลางในการสื่อสารระบบเครือข่ายประเภทนี้ที่เรารู้จักกันดีก็คือเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
รูปแบบการเชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์
    การเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งานร่วมกัน   จะมีองค์ประกอบหลัก 2 ส่วนด้วยกันคือ ส่วนของฮาร์ดแวร์หรือส่วนเครือข่ายเชิงกายภาพ และส่วนของซอฟต์แวร์หรือส่วนการจัดการ คือ
1.ฮาร์ดแวร์หรือส่วนเครือข่ายเชิงกายภาพ หรืออุปกรณ์เครือข่ายได้แก่ สายนำสัญญาณ  แผ่นวงจร  เครือข่าย ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์
2.ซอฟต์แวร์หรือส่วนการจัดการเชิงตรรกะ เป็นซอฟต์แวร์ที่กำหนดกฎเกณฑ์ในการจัดการเกี่ยวกับ สายนำสัญญาณ แผ่นวงจร
1.แบบดาว ( Star Topology ) เป็นการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องจะต่อผ่านอุปกรณ์ที่เรียกว่า  ฮับ ( Hub ) ซึ่งเป็นจุดกลางในการติดต่อเป็นเครือข่ายที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะติดตั้งและดูแลรักษาระบบง่าย ราคาวัสดุอุปกรณ์ก็ไม่แพง
2.  แบบวงแหวน ( Ring  Topology ) เป็นการเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ล่ะเครื่องเชื่อมต่อกันเป็นลักษณะแบบวงแหวน
3. แบบบัส ( Bus Topology) เป็นการเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องต่อเชื่อมอยู่บนสายสัญญาณเดียวกัน เป็นการเชื่อมต่อสายแบบเส้นตรงจากเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องแรกแล้วโยงสายยังเครื่องที่ 2 3… ตามลำดับในลักษณะการต่อแบบอนุกรมการเชื่อมต่อแบบนี้ทำได้ง่าย


4.แบบต้นไม้ ( Tree Topology ) มีลักษณะเชื่อมโยงคล้ายกับโครงสร้างแบบดาวแต่จะมีโครงสร้างแบบต้นไม้  โดยมีสายนำสัญญาณแยก ออกไปเป็นแบบกึ่งไม่เป็นวงรอบโครงสร้างแบบนี้จะเหมาะกับการประมวลผลแบบกลุ่มจะประกอบด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ระดับต่างๆ กันอยู่หลายเครื่องแล้วต่อกันเป็นชั้นๆดูภาพกับแผนภาพองค์กร  แต่ละกลุ่มจะมีโหมดแม่โหมดลูกในกลุ่มนั้นที่มีการสร้างสัมพันธ์กัน การสื่อสารข้อมูลจะผ่านตัวกลางไปยังสถานีอื่นๆ ได้ทั้งหมด เพราะทุกสถานีอยู่บนทางเชื่อมและรับส่งข้อมูลเดียวกัน 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น