ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
1.ความหมายระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ในปัจจุบันการใช้คอมพิวเตอร์ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องใช้ชีวิตประจำวันสำนักงาน
เริ่มจากการใช้แก้ไขในงานเอกสาร เก็บข้อมูล เป็นเครื่องใช้ทำงานคนเดียว
เมื่อสำนักงานหรือองค์กรนั้นมีขนาดใหญ่ขึ้นเริ่มมีการใช้คอมพิวเตอร์หลายรูปแบบ
บางครั้งอาจมีการทำงานเหมือนกันหรือแตกต่างกันก็ได้ บางลักษณะงานที่ต้องใช้ข้อมูลร่วมกัน
ถ้าเจ้าหน้าที่แต่ละคนเก็บข้อมูลไว้ในเครื่องของตนเอง
ความซ้ำซ้อนของข้อมูลย่อมเกิดขึ้น ทำให้เสียเวลามากขึ้น
บางครั้งข้อมูลไม่ตรงกันจึงทำให้มีการหาวิธีเพื่อทำการเชื่อมโยงต่อระบบคอมพิวเตอร์เหล่านั้นเข้าด้วยกัน
องค์ประกอบของการส่งข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่งจะต้องมีองค์ประกอบที่สำคัญ 3 ส่วนคือ
1. ผู้ส่ง ( Sender )
2. ผู้รับ ( Receiver)
3. ตัวกลางในการส่งสัญญาณ
ซึ่งทำให้หน้าที่ในการนำข้อมูลจากผู้ส่งไปให้ถึงผู้รับ
2.ประโยชน์ของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ในยุคแรกๆ ของการใช้คอมพิวเตอร์นั้น
คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจะแยกการทำงานโดยลำพังเมื่อต้องการนำข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง
มาใช้ทำงานในคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่ง
ก็ต้องอาศัยวิธีการที่ยุ่งยาก เช่น นำเอกสารที่พิมพ์
ออกมาจากเครื่องแรกไปป้อนใหม่ทางแป้นพิมพ์ของเครื่องที่สองหรือบันทึกข้อมูลจากเครื่องแรกลงในแผ่นบันทึกข้อมูล
แล้วจึงค่อยนำไปเปิดในเครื่องที่สองต่อมามีการเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์หลายเครื่องเข้าด้วยกัน
2.1 ระบบเครือข่ายในบริเวณเฉพาะที่
การเชื่อมต่อเครือข่ายให้ประโยชน์ในด้านการใช้ข้อมูลร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ข้อมูลในฐานข้อมูลเดียวกันทำให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันมากที่สุด
และยังให้ประโยชน์ในการใช้ทรัพยากรร่วมกัน เช่น อุปกรณ์ประเภทเครื่องพิมพ์
เครื่องกราดตรวจ นอกจากนี้ยังทำงานเอกภาพและประสิทธิภาพมากขึ้น
2.2 ระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
เนื่องจากระบบนี้เป็นระบบใหญ่ที่มีการเชื่อมต่อโยงกันทั่วโลกผลประโยชน์และผลกระทบจึงมีกว้างไกลมาก
สิ่งที่เรารู้จักและนำมาใช้ประโยชน์ทุกวันนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องซึ่งจะนำซึ่งสิ่งใหม่ๆ
อีกมากมาย ตัวอย่างประโยชน์ที่เรานำมาใช้ในปัจจุบัน ได้แก่
การสื่อสารด้วยไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ( E-mail )
การสืบค้นข้อมูลจากเว็บไซต์ การศึกษาแบบ
( E- learning ) การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ( E-commerce )
และการธนาคารอิเล็กทรอนิกส์ (E-banking)
2.3 ระบบเครือข่ายร่วมปฏิบัติ
เป็นระบบเครือข่ายที่ทำให้เกิดการรวมพลังของคอมพิวเตอร์เครือข่ายมาทำงานร่วมกัน ขณะที่มีการนำระบบนี้มาใช้ในงานวิจัยเพื่อถอดรหัสพันธุกรรมมนุษย์คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่กระจ่ายอยู่ในประเทศต่างๆ
ทั่วโลกสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการวิจัยได้ และแต่ละเครื่องจะได้รับส่วนแบบของงานคำนวณมาทำ
สมรรมนะของคอมพิวเตอร์ทั้งหมดในเครือข่ายจึงยิ่งกว่าซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ใดๆ ในโลก
ทำให้งานวิจัยสามารถสำเร็จลุล่วงได้ในเพียงไม่กี่ปี แทนที่จะต้องใช้เวลานานนับ
สิบๆปี
3.ประเภทของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
สื่อสารของคอมพิวเตอร์อาจมีขนาดใหญ่หรือเครือข่ายขนาดเล็กอาจเป็นส่วนบุคคลหรือสาธารณะและอาจจะเป็นไร้สายหรือใช้สายหรือใช้ทั้งสองแบบร่วมกัน ในทำนองเดียวกันเครือข่ายขนาดเล็กอาจจะมีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายขนาดใหญ่
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่นิยมใช้งานในปัจจุบันสามารถแยกได้ 3 ประเภทดังนี้
1.เครือข่ายแลนหรือเครือข่ายบริเวณเฉพาะที่
(LAN หรือLocal Area Network)
เป็นเครือข่ายที่นิยมใช้ภายในสำนักงานอาคารเดียวกัน
และองค์กรที่อยู่ในบริเวณเดียวกันหรือใกล้กัน
เป็นเครือข่ายระยะใกล้การเชื่อมต่อสามารถใช้สายเคเบิล สายโคแอกซ์ หรือสายใยแก้ว
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานขององค์กรและสามารถใช้อุปกรณ์ต่างๆ ร่วมกันได้
ตัวอย่างของเครือข่ายนี้ได้แก่ เครือข่ายคอมพิวเตอร์มหาวิทยาลัย
โรงเรียน และบริษัทหรือห้างร้านต่างๆ
2. เครือข่ายแมนหรือเครือข่ายบริเวณนครหลวง
(MAN หรือ ( Metropolitan Area Network )
เป็นเครือข่ายที่มีการเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้ที่อยู่ในเขตเมืองเดียวกัน
เป็นเครือข่ายขนาดกลางที่สร้างขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนของเมืองนั้นหรือเขตการปกครองนั้น
เช่น เครือข่ายของรัฐต่างๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกา
3. เครือข่ายแวนหรือเครือข่ายบริเวณกว้าง (WAN หรือ Wide Area network) เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงระบบเข้าด้วยกันในระยะไกล
ครอบคลุมพื้นที่ทั้งประเทศ ระหว่างประเทศ หรือทั่วโลก
โดยอาศัยอุปกรณ์ดาวเทียม สายเส้นใยแก้วนำแสง
หรือคลื่นไมโครเวฟ
เป็นตัวกลางในการสื่อสารระบบเครือข่ายประเภทนี้ที่เรารู้จักกันดีก็คือเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
รูปแบบการเชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์
การเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งานร่วมกัน จะมีองค์ประกอบหลัก 2 ส่วนด้วยกันคือ
ส่วนของฮาร์ดแวร์หรือส่วนเครือข่ายเชิงกายภาพ
และส่วนของซอฟต์แวร์หรือส่วนการจัดการ คือ
1.ฮาร์ดแวร์หรือส่วนเครือข่ายเชิงกายภาพ
หรืออุปกรณ์เครือข่ายได้แก่ สายนำสัญญาณ แผ่นวงจร
เครือข่าย ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์
2.ซอฟต์แวร์หรือส่วนการจัดการเชิงตรรกะ
เป็นซอฟต์แวร์ที่กำหนดกฎเกณฑ์ในการจัดการเกี่ยวกับ สายนำสัญญาณ แผ่นวงจร
1.แบบดาว ( Star Topology ) เป็นการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องจะต่อผ่านอุปกรณ์ที่เรียกว่า ฮับ
( Hub )
ซึ่งเป็นจุดกลางในการติดต่อเป็นเครือข่ายที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน
เพราะติดตั้งและดูแลรักษาระบบง่าย ราคาวัสดุอุปกรณ์ก็ไม่แพง
2. แบบวงแหวน ( Ring Topology ) เป็นการเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ล่ะเครื่องเชื่อมต่อกันเป็นลักษณะแบบวงแหวน
3. แบบบัส ( Bus Topology) เป็นการเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องต่อเชื่อมอยู่บนสายสัญญาณเดียวกัน
เป็นการเชื่อมต่อสายแบบเส้นตรงจากเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องแรกแล้วโยงสายยังเครื่องที่ 2 3… ตามลำดับในลักษณะการต่อแบบอนุกรมการเชื่อมต่อแบบนี้ทำได้ง่าย
4.แบบต้นไม้ ( Tree Topology ) มีลักษณะเชื่อมโยงคล้ายกับโครงสร้างแบบดาวแต่จะมีโครงสร้างแบบต้นไม้ โดยมีสายนำสัญญาณแยก
ออกไปเป็นแบบกึ่งไม่เป็นวงรอบโครงสร้างแบบนี้จะเหมาะกับการประมวลผลแบบกลุ่มจะประกอบด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ระดับต่างๆ
กันอยู่หลายเครื่องแล้วต่อกันเป็นชั้นๆดูภาพกับแผนภาพองค์กร แต่ละกลุ่มจะมีโหมดแม่โหมดลูกในกลุ่มนั้นที่มีการสร้างสัมพันธ์กัน
การสื่อสารข้อมูลจะผ่านตัวกลางไปยังสถานีอื่นๆ ได้ทั้งหมด
เพราะทุกสถานีอยู่บนทางเชื่อมและรับส่งข้อมูลเดียวกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น